เมนูอาหารอีสานบ้านๆ รสเด็ด

ประวัติความเป็นมาของเมนูอาหารอีสานบ้านๆ รสเด็ด

เมนูอาหารอีสานบ้านๆ รสเด็ด อาหารอีสานมีประวัติอันยาวนาน อาหารท้องถิ่นเชื่อกันว่าสืบทอดมาจากชาวไทย-ลาวที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ อาหารอีสานขึ้นชื่อในเรื่องของความร้อนและเครื่องเทศและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ อาหารจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการพัฒนาไปตามกาลเวลา ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ดินอุดมสมบูรณ์และมีแม่น้ำและลำธารหลายสายไหลผ่าน จึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงสัตว์และการปลูกพืชผัก จึงเป็นที่มาของวัตถุดิบหลักในอาหารอีสาน ได้แก่ ข้าวเหนียว ปลาร้า น้ำปลา มะเขือเทศ มะละกอ ผักพื้นบ้าน และเนื้อสัตว์ต่างๆ อาหารอีสานมีรสชาติอร่อย อ่อนโยน และดีต่อสุขภาพ ปัจจุบันอาหารอีสานกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศ

ก้อยเนื้อ

เนื้อก้อยเป็นอาหารท้องถิ่นของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีลักษณะคล้ายกับลาภ อย่างไรก็ตามให้ใช้เนื้อดิบหั่นเป็นชิ้นหรือสับละเอียด จากนั้นปรุงรสด้วยข้าวสวย พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว และผักชีฝรั่ง นิยมรับประทานกับข้าวเหนียว หรือจิ้มกับผักสดต่างๆ เนื้อก้อยมีกลิ่นฉุนเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอมของข้าวคั่ว นิยมรับประทานเป็นของว่าง หรือของว่าง ปัจจุบันเนื้อปลาคราฟกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนผสมในการเตรียมได้แก่ :

  • เนื้อวัว 500 กรัม
  • ข้าวคั่ว 4 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • 6 หอมแดงหั่นบาง ๆ
  • หัวหอมสับและผักชี
  • วิธีปรุงเนื้อก้อย

นำเนื้อวัวมาหั่นหรือสับให้ละเอียดใส่ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว และหอมแดงสับลงในชามผสมผสมให้เข้ากันเพิ่มต้นหอมสับและผักชี จากนั้นผสมอีกครั้งลองตามที่คุณต้องการ

หมูย่างน้ำจิ้มแจ๋ว

หมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว เป็นเมนูอีสานยอดนิยม ประกอบด้วยหมูย่างที่ย่างจนหอมนุ่มชุ่มฉ่ำ และน้ำจิ้มรสเด็ด ด้วยรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หมูผัดจึงเป็นเมนูยอดนิยมของชาวอิสา นิยมใช้เนื้อสันในหรือสันคอหมูหมักกับเครื่องเทศต่างๆ เช่น กระเทียม พริกไทย เกลือ และน้ำตาล แล้วนำไปย่างจนสุก มีกลิ่นหอม นุ่มชุ่มฉ่ำ น้ำจิ้มแจ่วเป็นน้ำจิ้มรสเผ็ด เปรี้ยว เค็ม ประกอบด้วยส่วนผสมหลัก เช่น น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และพริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงสับ และผักชีฝรั่ง นิยมรับประทานกับหมูย่าง เนื้อแกะ น้ำจิ้มแจ่ว ไก่ย่าง และอาหารอีสานอื่นๆ หมูย่างน้ำจิ้มแจ่วเป็นอาหารอีสานรสชาติกลมกล่อมที่หาได้ง่าย เหมาะสำหรับเป็นอาหารหลักหรือเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย

ส่วนผสมในการทำหมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว ได้แก่

  • หมูหรือสันคอ 500 กรัม
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • พริกไทย 10 เม็ด
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 2 หัวหั่นบาง ๆ
  • ผักชีฝรั่งสับ

หั่นหมูเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว
ผสมกระเทียม พริกไทย และเกลือลงไป
ผสมหมูฝอยกับเครื่องเทศบด
พักไว้ประมาณ 30 นาที
ย่างหมูบนถ่านหรือในเตาอบจนสุกทั่ว
ทำน้ำจิ้มแจ่วโดยผสมน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย และผักชีฝรั่งเข้าด้วยกัน
ราดน้ำจิ้มแจ่วลงบนหมูย่าง
เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวหรือผักสดหลากหลายชนิด

แกงเห็ดไข่มดแดง

แกงผักหวานไข่มดแดง เป็นเมนูอาหารอีสานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ประกอบด้วยผักหวานและไข่มดแดงที่ต้มจนสุก หอมกลิ่นเครื่องแกง และเครื่องปรุงรสต่างๆ เช่น น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พริกป่น ข้าวคั่ว และใบแมงลัก ผักหวาน เป็นผักพื้นบ้านของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิยมนำมาประกอบอาหารต่างๆ เช่น แกงผักหวานไข่มดแดง แกงผักหวานใส่ปลาย่าง แกงผักหวานใส่หมูยอ และแกงผักหวานใส่ปลาร้า ไข่มดแดง เป็นอาหารจากธรรมชาติที่มีรสชาติอร่อย นิยมนำมาประกอบอาหารต่างๆ เช่น แกงผักหวานไข่มดแดง ไข่มดแดงทอดกระเทียม และไข่มดแดงอบ แกงผักหวานไข่มดแดงเป็นเมนูที่มีรสชาติอร่อย กลมกล่อม และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารหลักหรือกับแกล้ม

ส่วนผสมในการทำแกงผักหวานไข่มดแดง ได้แก่

  • ผักหวาน 2 กำ
  • ไข่มดแดง 100 กรัม
  • พริกแห้ง 10 เม็ด
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • หอมแดง 2 หัว
  • ตะไคร้ซอย 1 ต้น
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบแมงลัก 1 ถ้วย

วิธีทำแกงผักหวานไข่มดแดง

  1. ล้างผักหวานให้สะอาด หั่นเป็นท่อน
  2. ล้างไข่มดแดงให้สะอาด
  3. โขลกพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง และตะไคร้ให้เข้ากัน
  4. ตั้งหม้อใส่น้ำ ต้มจนเดือด
  5. ใส่เครื่องแกงลงไปผัดจนหอม
  6. ใส่ผักหวานลงไปผัด
  7. ใส่ไข่มดแดงลงไปผัด
  8. ปรุงรสด้วยกะปิ เกลือ น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว
  9. ใส่ใบแมงลักลงไป
  10. ปิดไฟ ยกลงจากเตา
  11. เสิร์ฟร้อนๆ

ไส้ย่าง

ไส้ย่าง เป็นเมนูอาหารอีสานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ประกอบด้วยไส้หมูที่ย่างจนหอมกรุ่น นุ่มชุ่มฉ่ำ และน้ำจิ้มแจ่วที่รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ไส้ย่างนิยมใช้ไส้อ่อนหมูหมักกับเครื่องเทศต่างๆ เช่น กระเทียม พริกไทย เกลือ และน้ำตาล จากนั้นนำไปย่างจนสุก หอมกรุ่น นุ่มชุ่มฉ่ำ น้ำจิ้มแจ่ว เป็นน้ำจิ้มรสจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ประกอบด้วยส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย และผักชีฝรั่ง นิยมรับประทานกับหมูย่าง ลาบ จิ้มแจ่ว ไก่ย่าง และอาหารอีสานอื่นๆ ไส้ย่าง เป็นเมนูที่อร่อย กลมกล่อม และหารับประทานได้ง่าย เหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารหลักหรือกับแกล้ม

ส่วนผสมในการทำไส้ย่าง ได้แก่

  • ไส้อ่อนหมู 500 กรัม
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • พริกไทยเม็ด 10 เม็ด
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย 2 หัว
  • ผักชีฝรั่งซอย

วิธีทำไส้ย่าง

  1. หั่นไส้หมูเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว
  2. โขลกกระเทียม พริกไทย และเกลือให้เข้ากัน
  3. นำไส้หมูที่หั่นแล้วมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงที่โขลกไว้
  4. พักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
  5. ย่างไส้หมูบนเตาถ่านหรือเตาอบจนสุก
  6. ทำน้ำจิ้มแจ่วโดยผสมน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย และผักชีฝรั่งให้เข้ากัน
  7. ราดน้ำจิ้มแจ่วบนไส้ย่าง