ขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ ภาคเหนือ เป็นเมนูที่มีไฮไลท์มั้ย? เมนูนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้องใส่ดอกไม้ ถ้าไม่ใส่ดอกงิ้วก็ไม่ใช่ขนมจีนน้ำเงี้ยวแน่นอน ในตอนแรกก็มีขั้นตอนที่คล้ายกัน การทำน้ำพริกอ่อง เมื่อเติมน้ำพริกอ่องแล้วให้ใส่ดอกงิ้วและเติมลิ่มเลือด By น้ำพริกอ่อง อยู่ดีๆก็กลายเป็น ไปขนมจีนน้ำเงี้ยวกัน ถ้าใครมาจากทางเหนือก็คงจะจินตนาการได้ เรียกว่าขนมจีนน้ำเงี้ยว พัฒนามาจากการทำคือน้ำพริกอ่อง
ขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำเงี้ยวมี “น้ำเงี้ยว” ส่วนที่ลอยอยู่บนน้ำเงี้ยวสีแดง มันชื่อน้ำนา. มีรสชาติเผ็ดกว่าพื้นดิน บางคนที่ชอบเผ็ดก็ตักน้ำส่วนนี้ราดขนมจีน แต่ถ้าคุณไม่ชอบเผ็ดก็คนแล้วตักน้ำจากก้นราดราดขนมจีน วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำวิธีการทำขนมจีนน้ำเงี้ยวแบบมีครบทุกอย่าง ต่อไปผมจะแนะนำวิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยวแบบง่ายๆ
อร่อย ขนมจีนน้ำเงี้ยว รสชาติอาหารล้านนาล้านนา
ขนมจีนน้ำเงี้ยว มีต้นตำรับมาจากจังหวัดเชียงราย มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และอร่อยมาก ที่สำคัญมีขั้นตอนการทำ และการเตรียมวัตถุดิบที่ง่ายมาก ๆ วันนี้ ก็สาระอยู่นะ จะพาทุกท่านมาทำครับ ไปกันเลย
วัตถุดิบ
- พริกน้ำเงี้ยวตราแม่น้อย 2 ถุง
- กระดูกหมู 1 กิโลกรัม
- หมูบด 300 กรัม
- มะเขือเทศจำนวนตามใจชอบ
- ต้นหอมผักชี 3-5 ต้น
- ถั่วเน่าผง 50 กรัม
- ซุปก้อนปรุงรส รสหมู 4 ก้อน
- ผักกาดดอง 0.5 กิโลกรัม
- กระเทียม 10 หัว
- เลือดไก่ก้อนหั่นเต๋าใหญ่ 2 ก้อน
- ดอกเงี้ยว 300 กรัม
- เส้นขนมจีน 2 กิโลกรัม
วิธีทำ
- หั่นมะเขือเทศ ผักกาดดอง ต้นหอมผักชีเตรียมไว้
- ต้มน้ำพอร้อน จากนั้นใส่รากผักชี กระดูกหมูตามด้วยซุปก้อนปรุงรส ต้มทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
- โขลกกระเทียมแล้วนำไปเจียวในน้ำมันร้อน ให้มีสีเหลืองทองและกลิ่นหอม
- ผัดพริกแกงในน้ำมันร้อน แล้วตามด้วยน้ำปลาร้า กะปิ และหมูบด
- เมื่อน้ำซุปเดือดแล้วนำพริกแกงที่ผัดไว้ใส่ลงไป
- ตามด้วยเลือดไก่ก้อน ดอกเงี้ยว และมะเขือเทศ
- หลังจากนั้นใส่เลือดหมูลงไปแล้วอย่าคนเป็นเวลา 2 นาที
- คนเลือดหมูให้กระจาย แล้วตามด้วยผงถั่วเน่าบด
- ยกลงจากเตา จัดจานด้วยผักชี กระเทียมเจียว แล้วปรุงรสตามใจชอบ
หลายคนอาจจะเคยทานขนมจีนน้ำเงี้ยว เราเคยมาที่นี่มาก่อน รสชาติจะหวานอมเปรี้ยวนิดหน่อยจากมะเขือเทศลูกกลมๆ และแต้แต้(อร่อยมาก) ทุกจังหวัดในภาคเหนือ แต่ละสถานที่สามารถมีสูตรที่แตกต่างกันได้ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสูตรเดิมก็ตาม เข้ามาจนถึงปัจจุบันแต่วัตถุดิบและวัตถุดิบพื้นฐานทั่วไปในการทำขนมจีนน้ำเงี้ยวยังคงเหมือนเดิม โดยยังคงรักษาความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ของเมนูขนมจีนน้ำเงี้ยวภาคเหนือ ไม่เปลี่ยนแปลง
ขนมจีนน้ำเงี้ยว ทานคู่กับขนมจีนอร่อยๆ อาหารพื้นเมืองภาคเหนือที่เรารู้จักกับขนมจีนน้ำเงี้ยว น้ำพริกแกงภาคเหนือ มีส่วนผสมของพริกแกงที่ทำจากกระดูกหมูผสมกับพริกแกง เช่น พริก หอมแดง กระเทียม และเต้าเจี้ยว ปรุงรสเข้มข้นด้วยหมูสับและเลือดหมู บางคนชอบกินกับหมี่กรอบๆ หรือก๋วยเตี๋ยวเพื่อเป็นกำลังใจให้คนคิดถึงบ้าน
ตำนานน้ำเงี้ยว เมนูล้านนา ที่มาพร้อมกับความอร่อย
ขนมจีนน้ำเงี้ยว น้อยคนนักที่จะรู้จักและเคยลิ้มรสของอาหารล้านนานี้ ส่วนผสมของน้ำเงี้ยวคือ เลือดหมู กระดูกหมู ดอกเงี้ยว ขนมจีน มะเขือเทศ พริกแห้งทอด ต้นหอมผักชีโรยหน้า เวลากิน ก็จะกินกับกะหล่ำหั่นฝอย ถั่วงอก และผักกาดดอง ใส่พริกทอด มะนาว และแคบหมู น้ำเงี้ยวมีน้ำซุปข้น เพราะใส่เลือด คล้ายๆ กับก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก แต่พริกแกงที่ใส่ต่างกัน และน้ำเงี้ยวกินกับเส้นขนมจีนรสชาติเข้ากันมาก ๆ ส่วนผสมต่าง ๆ ก็เข้ากันอย่างลงตัว ให้รสชาติที่กลมกล่อม น้ำซุปของน้ำเงี้ยวใช้น้ำต้มกระดูกหมู มีรสชาติเค็ม เผ็ดนิดหน่อย ทำให้น้ำซุปนั้นมีรสหวานที่ได้จากน้ำต้มกระดูกหมู ดอกเงี้ยว ออกรสเปรี้ยวมะเขือเทศนิดหน่อย ต้นหอมผักชี กินกับผักสด
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายตำนานเล่าต่อ ๆ กันมาถึงที่มาของน้ำเงี้ยวว่า ส่วนหนึ่งคือ ตั้งชื่อมาจากส่วนผสมที่สำคัญ คือ ดอกงิ้ว จริง ๆ แล้วชาวล้านนาเรียกต้นนุ่นว่าต้นงิ้ว แต่เป็นงิ้วขาว ส่วนดอกงิ้วที่นำมาทำน้ำงิ้ว เป็นงิ้วดอกแดง หรือเรียกว่างิ้วป่า ในบางตำนานก็เล่าว่า น้ำเงี้ยว เป็นอาหารของชาวเงี้ยว ซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในรัฐฉานของพม่า ต่อมาอพยพมาอยู่ในล้านนาเพราะที่รัฐฉานมีสงครามการต่อสู้กับรัฐบาลพม่า
แม้ว่าจะมีตำนานเล่าถึงชื่อที่หลากหลาย แต่เรื่องรสชาติของเมนูนี้ก็ถือว่าสำคัญมาก เลยอยากแชร์เคล็ดลับในการรับประทานน้ำเงี้ยวอย่างไรให้อร่อย จากคนที่ชื่นชมเมนูนี้เป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ ใส่ต้องใช้กะหล่ำปลีสด นำมาหั่นเป็นฝอยไว้กินประกอบกัน แบบนี้จะยิ่งทำให้อร่อยมาก อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ คือ ถั่วงอก และถ้าบีบมะนาวเพิ่มลงไปอีกนิดหนึ่ง ก่อนตักน้ำเงี้ยวกิน จะลำแต้ ๆ (ลำแต้ ๆ หมายถึงอร่อยมาก) ยกนิ้วให้ว่าสุดยอด รับรองว่าจะต้องคิดขอเพิ่มอีกชามอย่างแน่นอน รู้ทั้งที่มาและเคล็ดลับแล้ว ก็ลองไปหามาทานกันได้นะคะ เดี๋ยวนี้มีร้านอาหารที่ขายอาหารเหนือหรืออาหารล้านนาให้เห็นอยู่ทั่วไป แล้วลองมาแชร์กันได้นะคะว่าทานกับอะไรอร่อยกว่ากัน
บทความแนะนำ